ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คลินิกวิรัช-กอบกุล ทันตแพทย์


เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง คลินิกวิรัช-กอบกุล ทันตแพทย์ (“คลินิก”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการของคลินิก (“ประกาศฯ”) โดยประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ผู้ใช้บริการทราบถึงวิธีการปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการ หรืออาจจะระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

1. ประเภทของเจ้าของข้อมูลที่คลินิก ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้บริการ ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่ซื้อสินค้าและ/หรือเข้ารับบริการจากคลินิก ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากคลินิก และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของคลินิก เป็นต้น

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการ ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ใช้บริการ บุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส บุตร และเครือญาติ เป็นต้น) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากช่องทางดังนี้

2.1 การเก็บข้อมูลโดยตรงจากผู้ใช้บริการ
      • เมื่อผู้ใช้บริการติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่คลินิก ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร
         ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
      • เมื่อผู้ใช้บริการแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากคลินิก เข้าทำสัญญารับบริการกับคลินิก หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่คลินิก

2.2 คลินิกอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากผู้ใช้บริการโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ หรือในฐานะที่ผู้ใช้บริการเป็นบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง เป็นต้น

2.3 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ คลินิกจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ

2.4 ในกรณีที่คลินิก เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ คลินิกจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังคลินิก ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 11 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ คลินิกขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอถอนความยินยอมของผู้ใช้บริการและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่คลินิกอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ได้แก่

3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา สถานภาพสมรส ข้อมูลบุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) เป็นต้น

3.2 ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลสุขภาพประวัติการรักษา และข้อมูลชีวภาพที่ใช้ในการรับบริการ (เช่น ภาพจำลองใบหน้า ภาพสแกน 3 มิติ ภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์ เป็นต้น) เป็นต้น

3.3 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ข้อมูลที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล บัญชีผู้ใช้บริการสังคมออนไลน์ (social media) (อาทิ บัญชีเฟสบุ๊ค (Facebook) บัญชีอินสตาแกรม (Instagram) บัญชีทวิตเตอร์ (Twitter) บัญชีแอปพลิเคชันไลน์ (LINE ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

3.4 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV)

4. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์”)

วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนเข้ารับบริการกับคลินิก ฐานสัญญา: คลินิกมีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลประวัติการรักษา และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการรับบริการของผู้ใช้บริการ เพื่อดำเนินการตามคำขอสำหรับการลงทะเบียนผู้ใช้บริการรายใหม่
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: คลินิกจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการให้บริการทางทันตกรรม เช่น การตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ เป็นต้น
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของคลินิก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
ฐานความยินยอม: กรณีที่มีข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวของลูกค้า เช่น ศาสนา และหมู่โลหิต จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากผู้ใช้บริการ กรณีที่ผู้ใช้บริการ คลินิกขอสงวนสิทธิ์ดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น เพื่อลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทความอ่อนไหวไม่ถูกแสดง ก่อนการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวของผู้ใช้บริการ
เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านการจัดทำฐานระบบข้อมูลผู้ใช้บริการ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: คลินิกมีความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลประวัติการรักษา และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการรับบริการของผู้ใช้บริการ เพื่อใช้ในการจัดทำระบบฐานข้อมูลของผู้ใช้บริการ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการในฐานระบบข้อมูลของคลินิก ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: คลินิกมีหน้าที่ตามกฎหมายในการบริหารจัดการดูแล แก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ ในระบบฐานข้อมูลของคลินิก ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: คลินิกมีความจำเป็นในการใช้ชื่อมูลส่วนบุคคลเพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ของคลินิก เช่น รายละเอียดการเข้ารับบริการ การตอบข้อซักถาม หรือข้อเสนอแนะของผู้ใช้บริการ เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และ ทรัพย์สินของ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: คลินิกมีความจำเป็นในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของคลินิกหรือผู้ใช้บริการ หรือการใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของคลินิกหรือผู้ใช้บริการ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของคลินิกหรือผู้ใช้บริการ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น
ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: คลินิกจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคลากร ผู้ใช้บริการ

ในกรณีที่คลินิก จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น คลินิกจะแจ้งวัตถุประสงค์พร้อมฐานทางกฎหมาย หรือในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คลินิกจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการตามแต่กรณี

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

คลินิกอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ เช่น

• ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน เช่น ธนาคาร ผู้ให้บริการรับชำระเงินแทน
• ผู้รับให้บริการห้องปฏิบัติการทางทันตกรรม (Laboratory)
• ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี และจัดทำโปรแกรมหรือระบบไอทีต่าง ๆ
• ผู้ให้บริการประกันภัยที่ผู้ใช้บริการประสงค์จะเข้าใช้บริการ
• หน่วยงานที่ต้องการตรวจสอบการบริหารจัดการข้อมูลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อป้องกันการทุจริต
• หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีอำนาจควบคุมและกำกับดูแลตามกฏหมาย
• หน่วยงานอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย เช่น หน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมาย การตรวจสอบ หรือกระบวนการทางกฎหมาย / การฟ้องร้อง
• บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้คลินิกสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ คลินิกจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการก่อน

6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ เช่น

6.1 คลินิกจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริการแต่ละประเภท ตามระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายที่บังคับใช้ระหว่างผู้ใช้บริการและคลินิก เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น

6.2 คลินิกจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามมาตรฐานการทำลายข้อมูลของคลินิก เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือคลินิกไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแล้ว

7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปต่างประเทศ

คลินิกอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลของผู้ใช้บริการไปยังคลินิกในเครือ หรือกลุ่มพันธมิตรที่คลินิกเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฏหมาย รวมทั้งแพลตฟอร์มของคลาวด์ (Cloud) ทั้งนี้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับข้อกำหนดในประเทศไทย

8. สิทธิของผู้ใช้บริการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้บริการสามารถขอใช้สิทธิ์ของผู้ใช้บริการภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่คลินิกกำหนด

8.1 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่คลินิก อาศัยความยินยอมของผู้ใช้บริการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมกับคลินิก ได้

8.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอรับสำเนา ผู้ใช้บริการมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการและขอให้คลินิก ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการขอถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวผู้ใช้บริการเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ผู้ใช้บริการมีสิทธิ์ขอให้คลินิกลบหรือทำลายข้อมูลของผู้ใช้บริการ หรือทำให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ เว้นแต่กรณีที่คลินิกมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของผู้ใช้บริการ

8.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอให้คลินิก ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีสิทธิ์ขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการเป็นปัจจุบันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน หากผู้ใช้บริการมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของคลินิก เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โปรดติดต่อคลินิก โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 11 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าคลินิก ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการที่กฎหมายกำหนด

9. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการปฏิเสธไม่เปิดเผยหรือให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกมีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างผู้ใช้บริการกับคลินิก หากผู้ใช้บริการประสงค์ที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกับคลินิก อาจส่งผลให้คลินิกไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้
ในกรณีที่คลินิกใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย หากผู้ใช้บริการไม่ยินยอมให้คลินิกใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้บริการยังคงสามารถใช้บริการของคลินิกได้ อาจทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากคลินิกไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ฉบับนี้ เช่น

10. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

คลินิกได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของคลินิกที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

11. ช่องทางการติดต่อคลินิก

คลินิกวิรัช-กอบกุล ทันตแพทย์
เลขที่ 189/24 ซ.บำเพ็ญประโยชน์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
หรือติดต่อผ่าน Email: vkdentalclinic@hotmail.com